ปัจจุบันโลกเข้าสู่ยุคอุตสาหกรรมที่มีการนำเอาเทคโนโลยีต่าง ๆ เข้ามาเกี่ยวข้อง โดยเฉพาะการทำความเย็น และการทำความร้อนที่พัฒนาอย่างต่อเรื่อง ความจำเป็นอย่างหนึ่งที่ไม่อาจมองข้ามได้ก็คือเรื่องของการรักษามาตรฐานความปลอดภัย และความสม่ำเสมอ รวมถึงความมั่นคงของผู้ผลิต และเจ้าของอาคาร ผู้ใช้งาน สิ่งแวดล้อม หรือ “ASHRAE” ที่เกิดขึ้นภายในอุตสาหกรรม HVAC บทความนี้จะมาพาไปทำความรู้จักกับมาตรฐานงานระบบวิศวกรรมระดับโลกนี้กัน

ASHRAE อีกมาตรฐานงานระบบวิศวกรรมระดับโลก HVAC

ASHRAE หรือ American Society of Heating, Refrigerating and Air-Conditioning Engineers คือ มาตรฐานงานระบบวิศวกรรมระดับโลก อีกองค์กรใหญ่ที่มีอิทธิพลต่อภาคอุตสาหกรรม HVAC ในเชิงพาณิชย์มานานมากกว่า 120 ปีแล้ว โดยมาตรฐานนี้ได้รับการยืนยันเป็นที่ยอมรับจากรัฐบาลกลาง มีบทบาทในการรับรองการออกแบบระบบของ HVAC ซึ่งปัจจุบันก็เป็นอีกมาตรฐานที่ยอมรับกันระดับสากลทั่วโลก ทั้งยังใช้เป็นแหล่งข้อมูลมาตรฐาน หรือตามหลักเกณฑ์ได้ในระดับนานาชาติ การเสนอข้อมูลการศึกษา หลักสูตร หรือการสัมมนาที่เกี่ยวข้องกัยอาชีพ ส่งเสริมตามหลักสิ่งพิมพ์ หรืองานด้านระบายอากาศ ความร้อน และการปรับอากาศ (HVAC)

พื้นฐานมาตรฐานที่มีของ ASHRAE

อุตสาหกรรมต่าง ๆ ล้วนแล้วแต่ต้องพึ่งพาเทคโนโลยี รวมถึงวิศวกรรมที่มีมาตรฐานต่าง ๆ ถูกนำมาใช้เพื่อเป็นข้อกำหนด แนวทางทางเทคนิค หรือขั้นตอนต่าง ๆ ที่ ASHRAE มีอิทธิพลอย่างมาก โดยได้มีการพัฒนาและยอมรับตามมาตรฐาน ซึ่งในอุตสาตกรรม HVAC ก็มีการใช้งานระบบนี้อยู่เสมอ ที่ใช้เพื่ออ้างอิงในการออกแบบเพื่อสุขอนามัยที่ดีของคนในอาคาร เช่น

  • – มาตรฐาน 34 จะมีการกำหนดความปลอดภัยที่มี และสารทำความเย็นที่จะมีการจำแนกแต่ละประเภท
  • – มาตรฐาน 55 บ่งบอกสภาพสิ่งแวดล้อมที่ควรมีให้กับมนุษย์
  • – มาตรฐานที่ 62.1 การระบายอากาศคุณภาพภายในอาคารเพื่อการยอมรับ
  • – มาตรฐาน 62.2 การระบายอากาศ การยอมรับคุณภาพภายในอาคารที่อยู่อาศัยรูปแบบแนวราบ
  • – มาตรฐาน 90.1 มาตรฐานพลังงานอาคารเว้นต่ำขึ้นที่อยู่อาศัยอาคาร โดยมีสปอร์นเซอร์ร่วมอย่าง IESNA ของมาตรฐานนี้
  • – มาตรฐาน 135 ที่เป็นโปรโตคอลการสื่อสารข้อมูลของอาคารอัตโนมัติ และการควบคุมเครือข่าย, มาตรฐาน 189.1 มาตรฐานการออกแบบประสิทธิภาพสูง อาคารสีเขียวเว้นอาคารที่อยู่อาศัยต่ำเพิ่มขึ้น

มาตรฐานการระบายอาคารด้วย ASHRAE

สำหรับมาตรฐานปัจจุบันของ ASHRAE ระบุว่าเป็นแนวทางของการระบายอากาศที่เหมาะสม แสดงค่าเป็น 20 CFM ต่อคนในอาคารสำนักงาน และ 15 CFM ต่อคนสำหรับโรงเรียน โดยอาจมีสารปนเปื้อนในอากาศ ฝุ่นละออง ควันบุหรี่ หรืออื่น ๆ นอกจากนี้ ยังมีการใช้งานบางสถานที่ เช่น เรือดำน้ำอากาศยานดัน และยานอวกาศระบายอากาศ ถือว่าจำเป็นอย่างมากโดยจะมีออกซิเจนเพื่อเจือจางของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ สามารถอยู่รอดได้ แบตเตอรี่ที่มีภายในเรือดำน้ำที่ก็ต้องระบายอากาศเพราะมีการปล่อยก๊าซไฮโดรเจน เพื่อสุขภาพและความปลอดภัย แรงดันในสภาพแวดล้อมที่ต้องควบคุมเสมอ

การพัฒนาและฝึกอบรมบุคคลรับรองมาตรฐานสากล ASHRAE

อย่างไรก็ตาม ASHRAE ยังมีการพัฒนาและฝึกอบรมบุคลากรให้ได้ใบรับรองระดับมืออาชีพของแต่ละประเภทงานด้วย จากสายงาน HVAC เช่น

  • – ผู้เชี่ยวชาญด้านการสร้างแบบจำลองในอาคาร ที่ประเมินพร้อมจำลองระบบด้วยฟิสิกส์เต็มรูปแบบ โดยยังมีการนำผลลัพ์ของซอฟแวร์ไปใช้ตรวจสอบแบบจำลองพลังงานด้วย
  • – ผู้เชี่ยวชาญด้านการว่าจ้างทักในการจัดวาง วางแผน ประสานงานทีมอาคาร ได้ทั้งอาคารใหม่และอาคารเก่ามีอยู่แล้ว
  • – ผู้เชี่ยวชาญด้านออกแบบอาคารที่มีประสิทธิภาพสูง ฝึกอบรมและสร้างแบบจำลองให้อย่างยั่งยืน สำหรับอาคารสมรรถนะสูง
  • – ผู้เชี่ยวชาญด้านการประเมินพลังงานอาคาร มีการฝึกอบรมใช้อุปกรณ์ที่เหมาะสมโดยเฉพาะด้านพลังงาน เพิ่มประสิทธิภาพอย่างดี
  • – ผู้เชี่ยวชาญด้านการออกแบบสถานพยาบาล รวบรวมระเบียบข้อบังคับ และมาตรฐานการออกแบบด้วยระบบ HVAC ที่เหมาะสมกับสภานพยาบาล
  • – ผู้เชี่ยวชาญด้านการประเมินพลังงานอาคาร ประเมินอุปกรณ์ที่มีการฝึกฝนอย่างเหมาะสม เพื่อให้การใช้พลังงานที่มีได้ประสิทธิภาพสูง
  • – ผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดการ ดำเนินการ ทักษะในการจัดการระบบ HVAC ที่มีประสิทธิภาพ บรรลุเป้าหมาย การปฏิบัติงานที่ได้คุณภาพอากาศ มีความปลอดภัยสูง

สำหรับแผนการวิจัยของ ASHRAE นี้นั้นปัจจุบันยังมีการมุ่งเน้นในเรื่องของความยั่งยืน การเพิ่มประสิทธิภาพการใช้ทรัพยากรต่าง ๆ ให้เหมาะสมที่สุด เพื่อลดผลกระทบที่เกิดขึ้นกับสิ่งแวดล้อมให้น้อยที่สุด รวมถึงด้านอื่น ๆ เช่น ความยืดหยุ่น การแพร่กระจายของไวรัสติดเชื้อในอากาศ คุณภาพสิ่งแวดล้อมในพื้นที่ที่ส่งผลต่อความเป็นอยู่ สุขภาพ อุปกรณ์ HVAC ส่วนประกอบ วัสดุ เป็นต้น